เงินประกันหรือเงินมัดจำของกิจการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น เงินประกันการให้เช่าพื้นที่ที่เรียกเก็บตั้งแต่วันทำสัญญา จะถือว่าเป็นรายได้ของบริษัทและต้องนำไปเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
บริษัทที่มีการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปจะเรียกเก็บเงินประกันหรือเงินมัดจำ ณ วันทำสัญญาเช่าอสังหาริมทรัพย์ และจะคืนเงินดังกล่าวให้ผู้เช่าเมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่า
การรับรู้รายการเงินประกันหรือเงินมัดจำ
เงินประกันดังกล่าวจะไม่ถือเป็นรายได้ในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยจะต้องเข้าเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อดังต่อไปนี้
โดยขนบธรรมเนียมประเพณีทางธุรกิจได้มีการเรียกเก็บเงินประกันหรือเงินมัดจำ
ต้องมีการคืนเงินประกันหรือเงินมัดจำให้แก่ผู้เช่าทันทีที่สัญญาสิ้นสุดโดยไม่มีเงื่อนไข แต่กรณีเกิดความเสียหายผู้ให้เช่ามีสิทธิหักกลบลบหนี้ได้
เงินประกันหรือเงินมัดจำที่เรียกเก็บต้องไม่เกิน 3-6 เท่าของค่าเช่ารายเดือน และ
สัญญาให้เช่าทรัพย์สินมีอายุสัญญาไม่เกิน 3 ปี
ดังนั้นบริษัทผู้ให้เช่าจะต้องรับรู้เงินประกันหรือเงินมัดจำเป็นเจ้าหนี้
ภาษีหักภาษี ณ ที่จ่าย
ผู้จ่ายเงินประกันหรือเงินมัดจำไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย เนื่องจากเงินประกันหรือเงินมัดจำไม่ได้เป็นรายได้ของผู้ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากเป็นกิจการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์
อ้างอิง: คำสั่งกรมสรรพากรที่ ป. 73/2541 (https://www.rd.go.th/publish/3580.0.html)
Comments